Categories
ปรับคุณภาพน้ำสระว่ายน้ำ

ทำไมต้องรักษาระดับค่าพีเอช(pH) ในสระว่ายน้ำ

ค่าพีเอช(pH) เป็นการวัดค่าความเป็นกรด-ด่างในน้ำ ค่าน้ำเป็นกลางจะมีค่าพีเอชเท่ากับ 7.0 แต่ถ้าค่าพีเอชที่มากกว่า 7.0 จะมีความเป็นด่าง ยิ่งค่าเพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นด่างมากขึ้น จนถึงค่าสูงสุดที่ค่า 14 ส่วนค่าที่ต่ำกว่า 7.0 จะเป็นกรด และจะเป็นกรดมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อค่าลดต่ำลง จนถึงค่า 1.0

ค่าพีเอชของน้ำในสระว่ายน้ำควรมีค่าระหว่าง 7.2 ถึง 7.6 เพราะสาเหตุเหตุดังนี้

1.ค่าพีเอชระหว่าง 7.2 ถึง 7.6 เป็นค่าพีเอชที่คลอรีนสามารถทำงานฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากค่าพีเอชสูงขึ้นกว่านี้คลอรีนจะลดประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคลง

2.ถ้าค่าพีเอชของน้ำต่ำกว่า 7 หรือมีค่าเป็นกรด น้ำจะมีฤทธิกัดกร่อนซึ่งจะเป็นอันตรายต่อฟัน เส้นผม และผิวหนังของผู้คนที่ลงเล่นน้ำได้ ทำให้ฟันสึกกร่อน เส้นผมกรอบแห้ง และผิวหนังแห้ง นอกจากนี้ยังกัดกร่อนยาแนวและกระเบื้องของสระว่ายน้ำอีกด้วย รวมทั้งกัดกร่อนต่อต่ออุปกรณ์ต่างๆของสระว่ายน้ำ

3.ถ้าน้ำมีค่าความเป็นกรดมากหรือมีค่าความเป็นด่างมากเกินไป จะระคายเคืองต่อผิวหนังและเส้นผมได้ง่าย

4.ตะไคร่น้ำและสิ่งมีชีวิตต่างๆ สามารถอาศัยอยู่ได้ในสภาวะความเป็นด่างมากกว่าความเป็นกรด ดังนั้นถ้าค่าพีเอชมากกว่า 7.6  ตะไคร่จะเติบโตได้ดี

อุปกรณ์ที่ใช้วัดค่าพีเอชที่นิยมกันก็คือ เทสต์คิท(Test Kit) ซึ่งเป็นหลอดใส่น้ำ 2 หลอดคู่กัน เพื่อใส่ตัวอย่างน้ำในสระ แล้วจึงหยดน้ำยาสีแดงเพื่อวัดค่าพีเอช และหยดน้ำยาใสเพื่อวัดค่าคลอรีนtest-kit

 

 

การปรับค่าพีเอชของน้ำ

กรณีที่ค่าพีเอชต่ำกว่า 7.2 จะต้องเพิ่มค่าพีเอชโดยการใช้ พีเอชบวก PH Plus

กรณีที่ค่าพีเอชสูงกว่า 7.6 จะต้องลดค่าพีเอชโดยการใช้ พีเอชลบ PH Minus

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.