- การไม่ขัดสระเป็นประจำ ควรขัดพื้นและผนังสระเป็นประจำ
- การล้างเครื่องกรองบ่อยเกินไป
- การใส่คลอรีนตอนกลางวัน
- การไม่วัดค่าน้ำเป็นประจำ
- การไม่สนใจค่าความกระด้างของน้ำ(Hardness)
หมวดหมู่: ปรับคุณภาพน้ำสระว่ายน้ำ
สาเหตุของกระเบื้องในสระว่ายน้ำหลุดร่อนเร็วเกิดจาก 2 สาเหตุดังนี้
1.ความกระด้างของน้ำ(Hardness) ต่ำเกินไป เกิดจากมีแคลเซี่ยมละลายในน้ำน้อยกว่า 200 ppm ทำให้น้ำเกิดความต้องการทำละลาย น้ำจึงพยายามละลายสิ่งที่น้ำสัมผัส เช่น ยาแนว กระเบื้อง
แต่หากความกระด้างของน้ำมากกว่า 400 ppm จะทำให้น้ำขุ่นและเกิดตะกรันที่ผนังสระได้
การเพิ่มค่าความกระด้างของน้ำสามารถทำได้โดยการใส่ Water Hardener
2.น้ำมีความเป็นกรด หากน้ำมีค่าพีเอชต่ำกว่า 7.0 น้ำจะมีสภาพเป็นกรด ซึ่งสามารถกัดกร่อนยาแนวและกระเบื้องได้ แนะนำให้รักษาค่าพีเอชระหว่าง 7.2-7.6
ถ้าค่าพีเอชต่ำกว่า 7.2 ให้ใส่โซดาแอช พีเอชบวก พีเอชอัพ หรือ โซเดี่ยมคาร์บอเนต
ดังนั้นเพื่อเป็นการยืดอายุของกระเบื้องในสระของเรา เราควรรักษาระดับค่าความกระด้างระหว่าง 200-400 ppm และรักษาค่าพีเอชไว้ระหว่าง 7.2-7.6 ตลอดเวลา
ค่าพีเอช(pH) เป็นการวัดค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำ โดยมีค่าอยู่ระหว่าง 1-14
น้ำบริสุทธิ์มีค่าพีเอชเป็นกลางจะมีค่าพีเอชเท่ากับ 7.0
ค่าพีเอชที่สูงกว่า 7.0 จะเริ่มมีความเป็นด่าง จนเป็นด่างสูงสุดที่ค่าพีเอช 14.0 เช่น น้ำทะเลมีค่าพีเอชเท่ากับ 8, สบู่เท่ากับ 9-10, โซดาไฟ 13.5
ค่าพีเอชที่ต่ำกว่า 7.0 จะเริ่มมีความเป็นกรด และเป็นกรดสูงสุดที่ค่าพีเอช 1.0 เช่น กาแฟค่าพีเอชเท่ากับ 5.0, ส้มและแอปเปิ้ลเท่ากับ 3.5, น้ำส้มสายชูเท่ากับ 2
การวัดค่าพีเอช
ค่าพีเอชสามารถวัดได้หลายวิธี แต่ที่สะดวกและนิยมมากที่สุดคือการวัดด้วยเทสคิท
ค่าพีเอช(pH)ของน้ำในสระว่ายน้ำที่เหมาะสม
ค่าพีเอชของน้ำในสระว่ายน้ำควรรักษาให้มีค่าอยู่ระหว่าง 7.2-7.6
หากค่าพีเอชสูงกว่า 7.6 คลอรีนจะไม่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อทำให้น้ำเขียวง่าย, แสบตา, น้ำขุ่น, เกิดตะกรันที่ผนังสระ
หากค่าพีเอชต่ำกว่า 7.2 จะทำให้แสบตา ระคายผิว เกิดการกัดกร่อนกระเบื้อง ยาแนว ทำให้กระเบื้องหลุดร่อนเร็วขึ้น นอกจากนี้ยัดกัดกร่อนฟันและเส้นผมของผู้เล่นน้ำได้อีกด้วย
วิธีลดค่าพีเอช กรณีค่าพีเอชสูงกว่า 7.6
ใส่กรดเกลือแห้ง, พีเอสลบ, พีเอชดาวน์ หรือโซเดี่ยมไบซัลเฟต
วิธีเพิ่มค่าพีเอช กรณีค่าพีเอชต่ำกว่า 7.2
ใส่โซดาแอช, พีเอชบวก, พีเอชอัพ หรือ โซเดี่ยมคาร์บอเนต
Pool Pro&Lab กาญจนบุรี จะทำให้การดูแลสระว่ายน้ำเป็นเรื่องง่ายเพื่อเพิ่มช่วงเวลาความสุขของคุณ โดยทีมงานของเราจะกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ดูดตะกอน ล้างระบบกรอง ปรับสภาพน้ำ ทำความสะอาดโดยรอบสระ ตรวจเช็คความพร้อมของปั๊มและงานระบบพร้อมรายงานผล
*ทีมงานของเราผ่านการอบรมตามมาตรฐาน รับรองเรื่องคุณภาพครับ
ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ… ให้เราดูแล
ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณถิรายุ นิยมทรัพย์ โทรศัพท์ 081-9262185
ขอแนะนำวิธีป้องกันน้ำเขียวในสระว่ายน้ำ 6 วิธีดังนี้
1.ตรวจสอบให้ระบบกรองทำงานโดยสมบูรณ์ไม่มีสิ่งอุดตัน การที่ระบบกรองทำงานโดยสมบูรณ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากระบบกรองสกปรกมากหรือมีสิ่งมาอุดตัน ระบบกรองก็จะไม่สามารถทำความสะอาดสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเป็นเครื่องกรองทราย ควรล้าง(Backwash) เมื่อแรงดันสูงขึ้นประมาณ 8-10 psi จากแรงดันการทำงานปกติ, หากเป็นระบบถุงกรอง(Filter Bag)หรือเครื่องกรองจีบ ควรล้างบ่อยๆ, ในเครื่องกรองDE ควรทำความสะอาดเมื่อความดันสูงขึ้น 20-25% ของแรงดันหลังทำความสะอาดใหม่ๆ
2.ทำความสะอาดสระทุกวันสม่ำเสมอ อย่างปล่อยให้ใบไม้ ใบหญ้า อยู่ในสระนาน เพราะสิ่งเหล่านี้จะกินคลอรีนในสระของท่าน จึงทำให้ปริมาณคลอรีนในสระลดลงอย่างรวดเร็ว
3.ปรับเคมีในน้ำให้สมดุลอยู่ตลอดเวลา
- ปริมาณคลอรีน : ควรอยู่ในระดับ 2-4 ppm ตลอดเวลา
- ค่าพีเอช 7.2-7.6 : หากค่าคลอรีนเกิน 7.6 คลอรีนจะไม่ฆ่าเชื้อ และหากค่าคลอรีนต่ำกว่า 7.0 อาจเกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนังได้
ปริมาณกรดไซยานูริค(CYANURIC ACID)หรือ Sun Block : ควรมีปริมาณ 30-50 ppm, หากต่ำกว่า 30 ppm คลอรีนจะสลายตัวเร็วเนื่องจากแสงแดดและความร้อน ขอแนะนำให้ใส่ สุพรีม ซันบล็อค แต่หากสุงเกิน 50 ppm คลอรีนจะมีประสิทธิภาพลดลง
4.ปริมาณเกลือในสระ ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดของเครื่องผลิตคลอรีนด้วยเกลือที่ท่านใช้อยู่ ปกติจะอยู่ที่ปริมาณ 4,000 – 5,000 ppm
5.ช็อกสระเป็นระยะๆหรือเมื่อสระสกปรกมากหรือใช้งานหนัก เช่น หลังพายุ, หลังการจัดปาร์ตี้ การช็อกสระเป็นการใส่คลอรีนเพิ่มขึ้นกว่าปกติ 3-4 เท่า เพื่อกำจัดเชื้อโรคคงค้างในสระให้สิ้นซาก
6.ใช้น้ำยากำจัดตะไคร่ เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่เป็นประจำ ขอแนะนำให้ใส่ ซุพรีม ทรอปิคอล สเตรนจ์ อัลจิไซด์
เมื่อท่านทำตามทั้ง 6 วิธีนี้แล้ว สระของท่านจะไม่เขียวอีกต่อไปครับ
วันนี้ผมขอนำเสนอวิธีประหยัดต้นทุนดูแลสระว่ายน้ำกับ Pool Pro&Lab อย่างง่ายๆให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
ค่าความกระด้างเป็นค่าที่ปกติแล้วสระน้ำโดยทั่วไปไม่มีการตรวจเช็คและไม่ค่อยมีการพูดถึง แต่แท้จริงแล้วสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและโครงสร้างของสระว่ายน้ำ
ระบบผลิตคลอรีนจากเกลือ เป็นการเปลี่ยนเกลือธรรมชาติให้เป็นคลอรีนด้วยประจุไฟฟ้า (ในรูปกระบอกสีฟ้าเป็นตัวผลิตคลอรีน) จะได้เป็นคลอรีนธรรมชาติซึ่งเป็นมิตรต่อผิวหนังและผมของเรามากกว่าระบบคลอรีนปกติ บางครั้งเด็กๆ และคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็เกิดอาการระคายเคืองจากการว่ายน้ำ ผมเลยแนะนำให้ใช้ระบบน้ำเกลือดีจะกว่าครับ
ทาครีมกันแดดเวลาว่ายน้ำอย่างไรให้ไม่ดำ ?
สวัสดีครับวันนี้ผม Pool Pro&Lab กาญจนบุรี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสระว่ายน้ำ จะมาตอบคำถามว่า ทำไมทาครีมกันแดดเวลาเล่นน้ำแล้วถึงยังดำ ผิวเสียจากแสงแดดอยู่อีก วันนี้จะมาไขข้อข้องใจกันครับ…
ค่าพีเอช(pH) เป็นการวัดค่าความเป็นกรด-ด่างในน้ำ ค่าน้ำเป็นกลางจะมีค่าพีเอชเท่ากับ 7.0 แต่ถ้าค่าพีเอชที่มากกว่า 7.0 จะมีความเป็นด่าง ยิ่งค่าเพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นด่างมากขึ้น จนถึงค่าสูงสุดที่ค่า 14 ส่วนค่าที่ต่ำกว่า 7.0 จะเป็นกรด และจะเป็นกรดมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อค่าลดต่ำลง จนถึงค่า 1.0
ค่าพีเอชของน้ำในสระว่ายน้ำควรมีค่าระหว่าง 7.2 ถึง 7.6 เพราะสาเหตุเหตุดังนี้